ทำไมเราต้องให้ค่าความสำคัญกับค่า PA ในครีมกันแดดด้วย

ครีมกันแดดทาหน้า : ครีมกันแดดที่เราใช้ ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่ครีมกันแดดทุกยี่ห้อจะใช้ค่าการป้องกันแสงแดดเท่ากันนะคะ แต่ต้องสังเกตค่าการป้องกันรังสียูวีด้วย ยิ่งถ้าบางคนไม่ได้ใส่ใจ อาจทำให้ทาครีมกันแดดเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล เพราะลืมดูค่า PA นั่นเองค่ะ เราจึงอยากให้สาว ๆ ทำความรู้จักและใส่ใจกับค่า PA ในครีมกันแดดกันให้มาก ๆ ค่ะ

สารบัญเนื้อหา

1. ค่า PA คืออะไร
2. ค่า PA คือนวัตกรรมแห่งผิว
3. ทำไมต้องมองหาค่า PA ในครีมกันแดด
4. ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ค่า PA ปกป้องผิวได้ดีที่สุด
5.คุณสมบัติของครีมกันแดดที่เหมาะกับวันออกแดด

1. ค่า PA คืออะไร

ครีมกันแดดหน้า
ค่า PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA ในขณะนี้ยังไม่มีหน่วยวัดที่เป็นมาตรฐานในการวัดค่าการดูดซืมของรังสี UVA ดังนั้นจึงถือเอาคำว่า PA เป็นหน่วยวัดรังสี UVA อย่างไม่เป็นทางการ ค่า PA นั้นจะมี 4 ระดับคือ PA+, PA++ , PA+++ และ PA++++ ค่ะ ซึ่งเครื่องหมาย + นี้ ก็หมายความว่า ยิ่งค่า + มาก ความสามารถในการปกป้องผิวก็มากขึ้นด้วยค่ะ โดยวัดเป็นเท่าของการเกิดผิวคล้ำดำ (Skin pigmentation) แบ่งได้ดังนี้

  • 1. PA+ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 1-4 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้น้อย
  • 2. PA++ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 4-8 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้ปานกลาง ควรใช้เมื่อทำงานในร่ม
  • 3. PA+++ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 8-16 เท่า หรือป้องกันได้มาก ควรใช้เมื่อทำงานกลางแดด
  • 4. PA++++ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 16 เท่าขึ้นไป หรือป้องกันได้สูงมาก ควรใช้เมื่อทำงานกลางแดดตลอดเวลา

แต่ปัจจุบันเรารู้กันอยู่แล้วว่าโลกร้อนขึ้นแทบทุกวัน เมื่อใดก็ตามที่เหงื่อออก ค่า PA ก็พร้อมจะลดลงไปด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับบ้านเราแล้ว แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA สูง ๆ จะดีที่สุดค่ะ และถึงอย่างไรก็ตาม ค่า PA ก็ถือเป็นค่าที่มีความสำคัญไม่แพ้ค่า SPF เลยล่ะ เพราะมีผลการทดลองที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของประสิทธิภาพในการปกป้องผิวระหว่างการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF เพียงอย่างเดียว กับการทาครีมกันแดดที่มีทั้งค่า SPF และ PA ผลการทดลองพบว่า ครีมกันแดดที่มีทั้ง SPF และ PA สามารถช่วยปกป้องผิวไม่ให้คล้ำเสียได้มากกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF เพียงอย่างเดียวอย่างเห็นได้ชัด ว่าระดับความไหม้ของผิวหนังต่างกันมากเลยค่ะ

2. ค่า PA คือนวัตกรรมแห่งผิว

เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านรังสี ดร.โดมินิก โมยาวน์ นักวิจัยและและผู้เชี่ยวชาญรังสียูวี แผนกวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมจากศูนย์วิจัย ลอรีอัล ประเทศฝรั่งเศส มาแนะนำให้รู้จักกับอันตรายจากแสงแดด เรื่องที่หลายคนละเลย โดยเฉพาะรังสียูวีเอ ซึ่งเป็นตัวร้ายที่สุดในบรรดารังสีที่ส่องลงมาที่พื้นผิวโลก มีชื่ออย่างเป็นทางการว่ารังสี Long-UVA ซึ่งมีค่าความยาวคลื่น 340-400 นาโนเมตร รังสีตัวนี้จะลงลึกไปถึงชั้นผิวหนัง ทะลุผ่านไปได้มากกว่ารังสียูวีบีที่คนส่วนใหญ่รู้จัก การคิดค้นนวัตกรรมป้องกันแดดแต่เดิมนั้นจะใช้ค่า SPF ในการปกป้องรังสียูวีบีซึ่งคนทั่วไปจะรู้จัก และมีอยู่ในครีมกันแดดทั่วไป ขณะที่การป้องกันรังสียูวีเอ เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้ชื่อในการปกป้องรังสีตัวนี้โดยใช้ค่า PA++++ ซึ่งขณะนี้มีถึง 4 บวก ซึ่งถือว่าเป็นค่ามาตรฐานที่ใช้ในการป้องกันรังสียูวีเอได้อย่างล้ำลึก

3. ทำไมต้องมองหาค่า PA ในครีมกันแดด

สาเหตุที่ต้องมองหาค่า PA++++ ในผลิตภัณฑ์กันแดด ก็เพื่อเป็นการป้องกันรังสี Long-UVA ซึ่งมีผลทำให้สีผิวเปลี่ยนแปลง หากผิวหนังสัมผัสกับรังสีนี้โดยตรง อาจจะทำให้ผิวไหม้แบบถาวรและทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ต่างกับรังสียูวีบีซึ่งอาจจะทำให้ผิวไหม้ได้เช่นกัน โดยผิวจะเปลี่ยนเป็นสีแทน ผ่านไป 2-3 วัน ผิวจะกลับมาปกติได้ เพราะฉะนั้นการเลือกครีมกันแดดต่อไปควรต้องมองหาค่า SPF และค่า PA++++ ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจได้ว่า คุณสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีเอได้เป็นอย่างดี

4. ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ค่า PA ปกป้องผิวได้ดีที่สุด

ก่อนจะถูกแดดเราควรทาครีมกันแดดก่อนประมาณ 20 – 30 นาที เพื่อให้สารกันแดดซึมเข้าสู่ผิวหนัง และหากคุณต้องการว่ายน้ำหรือกิจกรรมที่ต้องมีเหงื่อเยอะ ๆ เช่น หลังจากว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬา ควรทาครีมกันแดดซ้ำด้วยนะคะ เพราะน้ำและเหงื่อจะทำให้ครีมกันแดดหลุดลอกออกได้ง่ายคะ ที่สำคัญเลยสาว ๆ ควรพกพาครีมกันแดดไปในระหว่างวันที่ต้องออกแดดเป็นเวลานาน เพื่อทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมงค่ะ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยยืดระยะเวลาในการป้องกันแสงยูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกค่า SPF สูง ๆ และค่า PA++++ เพื่อช่วยให้ผิวได้รับการปกป้องได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น อย่าลืมนะคะว่าสาว ๆ ที่ยิ่งมีอายุมากเท่าไหร่ ผิวก็จะยิ่งฟื้นฟูกลับมาได้น้อยเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดค่ะ

5.คุณสมบัติของครีมกันแดดที่เหมาะกับวันออกแดด

ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เช่น SPF 50
ครีมกันแดดที่มีค่า PA++++ เพื่อป้องกันรังสีได้ถึง 16 เท่า
ครีมกันแดดที่ซึมซาบไว ให้ความเบาสบาย ไม่หนักผิว ยิ่งเป็นครีมกันแดดที่ทาซ้ำได้ ผิวไม่วอกก็ยิ่งดีมากขึ้นไปอีก

สรุป ครีมกันแดดทาหน้า

กันแดดหน้า
เห็นความสำคัญของค่า PA แล้วใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นก่อนซื้ออย่าลืมดูค่า PA ในครีมกันแดดด้วยนะคะ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ทำยังไงให้ผิวเป็นสิว แพ้ง่าย กลับมาขาวใสเหมือนเดิม
ปัญหาผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย คือปัญหาผิวที่สาว ๆ หลายคนต้องเจอกันเป็นส่วนใหญ่ และเป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะนอกจากเราจะเป็นสิว ปัญหาที่จะตามมาก็คือ รอยแดงสิว ความหมองคล้ำ ริ้วรอย จุดด่างดำ และเป็นปัญหาที่เราต้องตามแก้ไข กว่าจะหายก็ใช้เวลานาน และแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ไม่มีวันหมดง่าย ๆ ตราบใดที่คุณยังเป็นสิวและมีผิวแพ้ง่ายเหมือนเดิม เราจึงอยากแนะนำเคล็ดลับการดูแลผิวสำหรับคนที่เป็นสิว มีผิวแพ้ง่าย ให้กลับมาขาวใสได้อีกครั้งมาฝากกันค่ะ
เคล็ดลับหน้าใส ไร้สิว เผยผิวออร่า
ใบหน้าของผู้หญิงถือว่าเป็นจุดเซ็นเตอร์ของความงามก็ได้เลยนะคะ แต่ถ้าเราไม่ดูแลผิวหน้าจนปล่อยให้มีสิว มีฝ้า จุดด่างดำ ก็อาจทำให้เราหมดความสวยไปเลย และยังส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวอีกด้วย และการจะทำให้ผิวหน้ากลับมาสวยใสได้เหมือนเดิมนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องยากมาก เพราะฉะนั้น เราควรรักษาผิวหน้าให้สวยใสไร้สิวกันดีกว่า เพื่อไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาผิวในภายหลังอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เราก็มี 10 เคล็ดลับการดูแลผิวมาฝากกัน
8 นิสัยที่ทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาอีกเลย
เรื่องของสิวเป็นแล้วก็กลับมาเป็นอีก เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมสิวจึงเป็น ๆ หาย ๆ ในความเป็นจริงแล้วสิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะนิสัยของเรากันแน่ที่ทำให้เกิดสิวตัวร้าย เป็นแล้วก็เป็นอีก นอกจากเลิกเป็นสิวแล้วยังทิ้งรอยแผลสิวไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่านิสัยแบบไหนที่จะทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาเยี่ยมใบหน้าของเราอีกเลย
เหตุผลว่าทำไมเซรั่มจึงช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้
ไม่ว่าการดูแลขั้นตอนจะใช้สกินแคร์มากสักแค่ไหน แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเซรั่มจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้นเสมอ นั่นเป็นเพราะเซรั่มนั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวได้อย่างลึกล้ำ ทำให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ เซรั่มจึงเปรียบเสมือนได้กับอาหารผิวชั้นดีที่สกัดมาเพื่อการบำรุงผิวโดยเฉพาะ
เลือกเซรั่มยังไงให้ดีที่สุดสำหรับผิวของเรา
หากคุณเป็นอีกคนที่ต้องการให้ผิวมีสุขภาพดี สิ่งหนึ่งที่คุณจะขาดไม่ได้ก็คือการใช้สกินแคร์ช่วยบำรุงผิวของคุณค่ะ โดยเฉพาะการใช้เซรั่มบำรุงผิวร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น และการใช้เซรั่มก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเลือกใช้เซรั่มอย่างไรก็ได้นะคะ แต่ต้องเลือกเซรั่มที่ดีที่สุดและเหมาะกับผิวของเราจริง ๆ จึงจะทำให้เซรั่มบำรุงผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
รู้ไว้เลย ถ้าไม่ทาครีมกันแดดจะเป็นแบบนี้นะจ๊ะ
เราเตือนแล้วเตือนอีกว่าถ้าอยากมีผิวสวย ไม่แห้งเหี่ยวก่อนวัยอันควรก็ต้องปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด แต่ถึงแม้ว่าแดดบ้านเราจะร้อนสักแค่ไหน แต่สาว ๆ ก็มักจะหลงลืมทาครีมกันแดดกันประจำ เอาเป็นว่าถ้าใครไม่เชื่อเรา วันนี้เราจะมาบอกว่าทำไมสาว ๆ จึงควรทาครีมกันแดด เพราะถ้าหากไม่ทาแล้วล่ะ ผิวของคุณก็อาจจะเป็นแบบนี้ได้เลยค่ะ
พลาดกันมากี่ครั้งแล้วกับความเชื่อผิด ๆ ของครีมกันแดด
แสงแดดร้อนระอุในบ้านเราแบบนี้ สิ่งที่เราจะขาดจากกระเป๋าของเราไม่ได้เลยก็คือ ครีมกันแดดนั่นเอง เพราะครีมกันแดดมีประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก ทั้งช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV ไม่ให้ผิวไหม้คล้ำเสีย ชะลอการเกิดริ้วรอย ไม่ทำให้เราแก่เร็ว ลดความเสี่ยงการเกิดกระ ฝ้า มะเร็งผิวหนัง แต่ถึงประโยชน์จะเยอะขนาดนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายังมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
เซรั่ม แหล่งอาหารชั้น 1 ที่ผิวเราขาดไม่ได้!
ปัจจุบันแค่ใช้ครีมบำรุงผิวธรรมดาก็เอาไม่อยู่แล้ว เพราะในอากาศสมัยก่อนกับปัจจุบันนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง เราคงต้องยอมรับว่าผิวของเราล้วนตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษมากมายกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น คราบเขม่าควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ความร้อนจากแสงแดดที่นับวันก็ยิ่งมีแต่เพิ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ปล่อยของเสียออกมาในปริมาณมาก สิ่งที่เราจะทำได้คือการดูแลผิวของเรา เติมอาหารผิวของเราให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้ผิวมีสุขภาพดีได้นั่นเอง และสกินแคร์ตัวสำคัญที่จะดูแลผิวของเราให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ก็คือ เซรั่มบำรุงผิวนั่นเองค่ะ