ครีมกันแดด LaMocha รองพื้น ไม่เป็นคราบ ไม่เยิ้มมัน กันเหงื่อ ไม่มีริ้วรอย จุดด่างดำ เมคอัพ สวยเป๊ะ

ผิวขาดน้ำ จนทั้งแห้ง ทั้งมัน! เซรั่มช่วยคุณได้

ครีมลดริ้วรอย  : น้ำนั้นมีความสำคัญต่อผิวหน้าเป็นอย่างมาก เพราะน้ำใต้ผิวทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น เมื่อผิวหนังมีความชุ่มชื้นเป็นปกติ จะส่งผลให้ผิวสวยงาม มีความเรียบเนียน นุ่มเนียน แต่ในทางกลับกันหากผิวขาดน้ำก็จะทำให้ผิวไม่เรียบเนียน อาจจะลอกล่อนได้ ซึ่งถ้าคุณมีผิวในลักษณะเช่นนี้ เซรั่มช่วยคุณได้ค่ะ

สารบัญเนื้อหา

1. ผิวขาดน้ำคืออะไร
2. ความแตกต่างระหว่างผิวขาดน้ำกับผิวแห้ง
3. ลักษณะของผิวขาดน้ำที่สังเกตง่ายๆ
4. สาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำ

1. ผิวขาดน้ำคืออะไร

ครีมลดริ้วรอย
บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าผิวขาดน้ำกับผิวแห้งเหมือนกันหรือเปล่า เราบอกเลยค่ะว่าไม่เหมือนกันแน่นอน ผิวสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันดังนี้

  • 1. ผิวขาดน้ำ หรือ Dehydrated skin เป็นผิวแห้งเทียม ลักษณะของผิวจะมีน้ำใต้ผิวน้อย ในขณะที่การผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันยังอยู่ในระดับ ปกติหรือมากกว่าปกติ ทำให้มีน้ำมันเคลือบผิวมาก แต่ผิวดูแห้ง ลูบแล้วจะให้ความรู้สึกสากมือ
  • 2. ผิวแห้ง หรือ Dry skin เป็นผิวที่มีน้ำมันเคลือบผิวน้อยหรือไม่มีเลย เนื่องจากต่อมไขมันมีขนาดเล็กและมีจำนวนน้อย

2. ความแตกต่างระหว่างผิวขาดน้ำกับผิวแห้ง

วิธีที่ง่ายที่สุดในการดูความแตกต่างระหว่างผิวขาดน้ำกับผิวแห้งคือ ดูที่ระดับความมันของผิว โดยถ้าหากว่าความมันบนผิวหน้าเท่าเดิม ไม่เพิ่ม มีแต่แนวโน้มจะลดลง ผิวลักษณะนี้คือผิวแห้ง ซึ่งเป็นสภาพผิวส่วนบุคคลที่ติดตัวมาแต่เกิด ส่วนถ้าผิวเดี๋ยวแห้งเดี๋ยวมัน หลังล้างหน้าใหม่ๆ ผิวแห้งตึงและกลับมามันคืนอย่างรวดเร็ว ลักษณะนี้คือผิวขาดน้ำ เป็นสภาวะที่เกิดกับผิวแห้งหรือผิวมันก็ได้ ถ้าเกิดกับคนผิวแห้ง เรียกว่าผิวแห้งขาดน้ำ ถ้าเกิดกับคนผิวมันเรียกว่าผิวมันขาดน้ำค่ะ

3. ลักษณะของผิวขาดน้ำที่สังเกตง่ายๆ

ผิวขาดน้ำจะปรากฎให้เห็นในลักษณะต่างๆขึ้นกับความรุนแรง คือ ผิวสาก (Feeling rough) ผิวเป็นขุย (Scaly) และผิวแตก (Cracked) โดยหากถ้าใช้เครื่องวัดค่าการสูญเสียน้ำออกทางผิวหนังจะมีค่าที่สูงตามระดับความรุนแรง แต่ถ้าไม่มีเครื่องวัด เราสังเกตเองได้โดยลองลูบผิวแล้วหากเกิดอาการสากมือ (Feeling rough) หลายคนคิดว่าเป็นอาการปกติทั่วไป ไม่น่ามีอะไรมาก ใช้กรดผลไม้ (AHA) ทาสัก 2-3 วัน ความสากก็ลดลง ผิวกลับมาเรียบเนียนได้แล้ว ทำให้บางคนไม่รู้ว่าผิวตัวเองขาดน้ำ เพราะอาการแสดงไม่ชัดเจน สำหรับบางคนที่อาการผิวขาดน้ำเป็นมานานและสะสม อาการ Feeling rough จะกลับเป็นใหม่อีก การทากรดผลไม้ซ้ำๆเพื่อให้หน้าเรียบ โดยไม่ได้แก้ไขที่สาเหตุ อาจจะเป็นอันตรายต่อผิวในระยาวได้ เช่น ผิวแดงง่าย ผิวแห้งมากขึ้นจนเป็นขุย โดนแดดหน้าดำง่าย ใช้ครีมอะไรก็มักจะแพ้และระคายเคืองไปหมด และสำหรับคนที่มีผิวมันแต่กำเนิด หากมีปัญหาผิวขาดน้ำแทรกเข้ามา จะทำให้ผิวพยายามผลิตน้ำมันออกมาชดเชย ผิวจึงมันมากกว่าปกติ หรือที่เรียกว่า ” ผิวมันขาดน้ำ ” อาการแสดงคือ ผิวสากกร้านแต่มีน้ำมันเคลือบเยอะ เป็นสิวอุดตันเม็ดเล็กได้ง่ายมาก และถึงแม้ว่าผิวขาดน้ำ ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ความสวยงามของผิวภายนอกที่มองเห็นด้วยสายตาเท่านั้น แต่ส่งผลถึงผิวภายในด้วย ซึ่งอาจมากจนมีการอักเสบใต้ผิว นอกจากนั้นการขาดน้ำเป็นระยะเวลานาน ทำให้ skin barrier อ่อนแอ เชื้อโรคและสารบางชนิดที่ผิวไม่อนุญาตให้ซึมผ่านได้แต่เดิม จะสามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการแพ้หรือเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นค่ะ

4. สาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำ

  • 1. โรคทางพันธุกรรม เช่น มีความผิดปกติในการสร้าง keratin โรคเด็กดักแด้ ichthyosis จากความผิดปกติในการสร้างเคราติน keratin หรือโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ทำให้เสียเสียความสามารถในการรักษาน้ำไว้ที่ผิวหนัง
  • 2. อายุ ผู้สูงอายุน้ำมันจากต่อมไขมันจะผลิตน้อยลงและไขมันระหว่างเซลล์จะลดลง ทำให้เสียน้ำออกจากผิวหนังได้ง่าย
  • 3. ชั้นหนังกำพร้ามีการหมุนเวียนเร็วกว่าปกติ จนไม่สามารถสร้างชั้นไขมันได้ทัน จึงเสียความสามารถในการรักษาน้ำให้คงอยู่ในผิวหนัง มักพบในผู้ที่มีประวัติการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการผลัดผิวในความเข้มข้นสูงและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน การขัดหน้า ลอกหน้า ทำเบบี้เฟซผิวจะมีลักษณะบาง แดงง่าย
  • 4. มีการทำลายของผิวหนังชั้นหนังกำพร้าจากสารเคมี เช่น สารทำความสะอาดชนิดรุนแรง ชะล้างน้ำมันที่เคลือบบนผิวมากเกินไป เป็นผลให้ผิวหนังสูญเสียน้ำออกสู่ภายนอกได้ง่ายขึ้น
  • 5. สภาวะแวดล้อม ในฤดูหนาว ความชื้นในบรรยากาศตะต่ำ การสูญเสียน้ำออกจากผิวหนังเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ผิวหนังอักเสบจากความแห้ง
  • 6. พฤติกรรมและส่วนบุคคล ออกแดดประจำ สารเคมี ลม ความชื้นในบรรยากาศมีอิทธิพลต่อการเสียน้ำออกจากผิวหนัง

5. เซรั่มเติมน้ำให้ผิวหน้าชุ่มชื่นได้อย่างไร

  • เซรั่มมีเนื้อสัมผัสที่เหลวและบางเบา สามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้ทันที
  • ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์เปล่งประกายอีกครั้งด้วยเซรั่มให้ความชุ่มชื่นกับผิว เมื่อใช้แล้วจะรู้สึกถึงความเปล่งปลั่งของผิวในครั้งแรกที่ใช้
  • ช่วยเก็บน้ำให้กับผิวได้อย่างยาวนาน ผิวหน้าไม่สากระคายอีกต่อไป
  • ยิ่งใช้เซรั่มควบคู่กับน้ำแร่ก็จะยิ่งทำให้ผิวหน้าเก็บกักความชุ่มชื่นได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

สรุป ครีมลดริ้วรอย

ครีมกระชับรูขุมขน
ครีมบํารุงหน้า : เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าเซรั่มนั้นช่วยลดความสากระคายของผิวขาดน้ำ ด้วยการเก็บน้ำให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้อย่างยาวนาน ไม่อยากมีผิวขาดน้ำอีกต่อไป อย่าลืมใช้เซรั่มบำรุงผิวนะคะ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ทำยังไงให้ผิวเป็นสิว แพ้ง่าย กลับมาขาวใสเหมือนเดิม
ปัญหาผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย คือปัญหาผิวที่สาว ๆ หลายคนต้องเจอกันเป็นส่วนใหญ่ และเป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะนอกจากเราจะเป็นสิว ปัญหาที่จะตามมาก็คือ รอยแดงสิว ความหมองคล้ำ ริ้วรอย จุดด่างดำ และเป็นปัญหาที่เราต้องตามแก้ไข กว่าจะหายก็ใช้เวลานาน และแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ไม่มีวันหมดง่าย ๆ ตราบใดที่คุณยังเป็นสิวและมีผิวแพ้ง่ายเหมือนเดิม เราจึงอยากแนะนำเคล็ดลับการดูแลผิวสำหรับคนที่เป็นสิว มีผิวแพ้ง่าย ให้กลับมาขาวใสได้อีกครั้งมาฝากกันค่ะ
เคล็ดลับหน้าใส ไร้สิว เผยผิวออร่า
ใบหน้าของผู้หญิงถือว่าเป็นจุดเซ็นเตอร์ของความงามก็ได้เลยนะคะ แต่ถ้าเราไม่ดูแลผิวหน้าจนปล่อยให้มีสิว มีฝ้า จุดด่างดำ ก็อาจทำให้เราหมดความสวยไปเลย และยังส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวอีกด้วย และการจะทำให้ผิวหน้ากลับมาสวยใสได้เหมือนเดิมนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องยากมาก เพราะฉะนั้น เราควรรักษาผิวหน้าให้สวยใสไร้สิวกันดีกว่า เพื่อไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาผิวในภายหลังอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เราก็มี 10 เคล็ดลับการดูแลผิวมาฝากกัน
8 นิสัยที่ทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาอีกเลย
เรื่องของสิวเป็นแล้วก็กลับมาเป็นอีก เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมสิวจึงเป็น ๆ หาย ๆ ในความเป็นจริงแล้วสิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะนิสัยของเรากันแน่ที่ทำให้เกิดสิวตัวร้าย เป็นแล้วก็เป็นอีก นอกจากเลิกเป็นสิวแล้วยังทิ้งรอยแผลสิวไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่านิสัยแบบไหนที่จะทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาเยี่ยมใบหน้าของเราอีกเลย
เหตุผลว่าทำไมเซรั่มจึงช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้
ไม่ว่าการดูแลขั้นตอนจะใช้สกินแคร์มากสักแค่ไหน แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเซรั่มจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้นเสมอ นั่นเป็นเพราะเซรั่มนั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวได้อย่างลึกล้ำ ทำให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ เซรั่มจึงเปรียบเสมือนได้กับอาหารผิวชั้นดีที่สกัดมาเพื่อการบำรุงผิวโดยเฉพาะ
เลือกเซรั่มยังไงให้ดีที่สุดสำหรับผิวของเรา
หากคุณเป็นอีกคนที่ต้องการให้ผิวมีสุขภาพดี สิ่งหนึ่งที่คุณจะขาดไม่ได้ก็คือการใช้สกินแคร์ช่วยบำรุงผิวของคุณค่ะ โดยเฉพาะการใช้เซรั่มบำรุงผิวร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น และการใช้เซรั่มก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเลือกใช้เซรั่มอย่างไรก็ได้นะคะ แต่ต้องเลือกเซรั่มที่ดีที่สุดและเหมาะกับผิวของเราจริง ๆ จึงจะทำให้เซรั่มบำรุงผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
รู้ไว้เลย ถ้าไม่ทาครีมกันแดดจะเป็นแบบนี้นะจ๊ะ
เราเตือนแล้วเตือนอีกว่าถ้าอยากมีผิวสวย ไม่แห้งเหี่ยวก่อนวัยอันควรก็ต้องปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด แต่ถึงแม้ว่าแดดบ้านเราจะร้อนสักแค่ไหน แต่สาว ๆ ก็มักจะหลงลืมทาครีมกันแดดกันประจำ เอาเป็นว่าถ้าใครไม่เชื่อเรา วันนี้เราจะมาบอกว่าทำไมสาว ๆ จึงควรทาครีมกันแดด เพราะถ้าหากไม่ทาแล้วล่ะ ผิวของคุณก็อาจจะเป็นแบบนี้ได้เลยค่ะ
พลาดกันมากี่ครั้งแล้วกับความเชื่อผิด ๆ ของครีมกันแดด
แสงแดดร้อนระอุในบ้านเราแบบนี้ สิ่งที่เราจะขาดจากกระเป๋าของเราไม่ได้เลยก็คือ ครีมกันแดดนั่นเอง เพราะครีมกันแดดมีประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก ทั้งช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV ไม่ให้ผิวไหม้คล้ำเสีย ชะลอการเกิดริ้วรอย ไม่ทำให้เราแก่เร็ว ลดความเสี่ยงการเกิดกระ ฝ้า มะเร็งผิวหนัง แต่ถึงประโยชน์จะเยอะขนาดนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายังมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
เซรั่ม แหล่งอาหารชั้น 1 ที่ผิวเราขาดไม่ได้!
ปัจจุบันแค่ใช้ครีมบำรุงผิวธรรมดาก็เอาไม่อยู่แล้ว เพราะในอากาศสมัยก่อนกับปัจจุบันนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง เราคงต้องยอมรับว่าผิวของเราล้วนตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษมากมายกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น คราบเขม่าควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ความร้อนจากแสงแดดที่นับวันก็ยิ่งมีแต่เพิ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ปล่อยของเสียออกมาในปริมาณมาก สิ่งที่เราจะทำได้คือการดูแลผิวของเรา เติมอาหารผิวของเราให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้ผิวมีสุขภาพดีได้นั่นเอง และสกินแคร์ตัวสำคัญที่จะดูแลผิวของเราให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ก็คือ เซรั่มบำรุงผิวนั่นเองค่ะ
ผิวของคนเราจะทนแดดได้ซักแค่ไหนกันนะ
แสงแดดที่เราต้องเจอกันทุก ๆ วัน รู้หรือไม่คะว่าคนเราแต่ละคนมีความทนต่อแสงแดดต่างกัน เนื่องจากสีผิวของเรานั้นแตกต่างกัน ทำให้การดูดซับหรือความทนต่อรังสียูวีในผิวของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าสีผิวของแต่ละคนจะมีความทนต่อแสงแดดได้สักเท่าไหร่ และจะมีวิธีการป้องกันผิวจากแสงแดดที่น่าสนใจได้อย่างไรบ้าง
ทำไมเราต้องให้ค่าความสำคัญกับค่า PA ในครีมกันแดดด้วย
ครีมกันแดดที่เราใช้ ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่ครีมกันแดดทุกยี่ห้อจะใช้ค่าการป้องกันแสงแดดเท่ากันนะคะ แต่ต้องสังเกตค่าการป้องกันรังสียูวีด้วย ยิ่งถ้าบางคนไม่ได้ใส่ใจ อาจทำให้ทาครีมกันแดดเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล เพราะลืมดูค่า PA นั่นเองค่ะ เราจึงอยากให้สาว ๆ ทำความรู้จักและใส่ใจกับค่า PA ในครีมกันแดดกันให้มาก ๆ ค่ะ