การดูแลผิวหน้า : แสงแดดนั้นไม่ใช่จะมีประโยชน์เพราะเป็นแหล่งวิตามินดีต่อร่างกายเท่านั้นนะคะ แต่แสงแดดก็ทำให้เกิดปัญหาผิวเช่นกัน หากเราตากแดดเป็นเวลานาน ๆ ในช่วงที่ผิดเวลา ซึ่งอาจทำให้ภูมิคุ้มกันผิวลดลงไป จนทำให้เกิดปัญหาผิวมากมาย ทั้งปัญหาผิวมีริ้วรอย ความหมองคล้ำ จนกระทั่งถึงโรคมะเร็งผิวหนังเลยค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าแสงแดดนั้นส่งผลร้ายต่อผิวของเราอย่างไรกันบ้าง
สารบัญเนื้อหา
1. อันตรายจากแสงแดดที่ต้องรู้
2. แสงแดดมีอันตรายมากกว่าที่เราคิด
3. เราจะป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างไร
1. อันตรายจากแสงแดดที่ต้องรู้
แสงแดดสามารถทำร้ายผิวของเราได้ทุกฤดูกาลตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นแดดอ่อนหรือแดดจัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และความเข้มของรังสียูวีในแสงแดด ปัจจุบันนอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ผิวสดใสต้องร่วงโรยไปก่อนเวลาอันควรก็คือแสงแดดนั่นเองค่ะ ในแสงแดดประกอบด้วยรังสีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มีชื่อเรียกว่ารังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) หรือรังสียูวี (UV) ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ว่าแสงยูวี แม้เพียงเล็กน้อยในยามแดดจัด ก็สามารถทำให้คอลลาเจนหรือเซลล์เนื้อเยื่อของผิวหนังเสื่อมสภาพลงได้ สารอนุมูลอิสระต่าง ๆ จะเป็นผลผลิตจากการที่ร่างกายต่อสู้กับสิ่งที่มาระคายเคือง เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน และมลพิษต่างๆ เป็นเวลานาน ซึ่งหากหลงเหลืออยู่ในผิวหนัง สารอนุมูลอิสระนี้ก็อาจทำลายเซลล์รอบ ๆ ตัว ทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ซึ่งโรคมะเร็งผิวหนังจะพบมากในคนตะวันตก โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย และถึงแม้ว่าโรคมะเร็งผิวหนังจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่พบว่ามีความสัมพันธ์กับรังสียูวี โดยที่ผิวหนังถูกแสงแดดแผดเผาเป็นเวลานานหลายปี
2. แสงแดดมีอันตรายมากกว่าที่เราคิด
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าวันที่ท้องฟ้าขมุกขมัว วันที่มีเมฆหมอกหนา หรือเวลาฝนตกหรือมีลมหนาว เป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจะเกิดอันตรายจากแสงแดด แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้แต่ในวันที่มีเมฆหมอก ไม่มีร่มเงาแดด แต่หากยังมีแสงสว่างพอที่จะอ่านหนังสือได้ แสงยูวีก็ยังสามารถส่องผ่านมากระทบที่ผิวของเราได้เช่นกัน แม้กระทั่งวันที่มีลมพัดแรงก็ตาม ซึ่งผิวหนังอาจได้รับผลเสียจากแสงแดด และเกิดผิวไหม้ได้มากกว่าปกติ เพราะลมที่พัดแรงจะทำให้รู้สึกเย็นสบาย ทำให้หลายคนอาจเผลออยู่กลางแจ้งหรือกลางแดดนานโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะเวลาเดินทางไปต่างจังหวัดที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง บางคนชอบเปิดหน้าต่างรถให้ลมพัดโกรกตลอดเวลา ผลที่ตามมาคือหน้าจะดำคล้ำลงทันทีเมื่อสิ้นสุดการเดินทาง และการอยู่ในที่สูง เช่น บนภูเขาก็ทำให้ผิวมีโอกาสได้รับอันตรายจากแสงแดดมากกว่าปกติด้วย เพราะพื้นที่สูงจะมีชั้นบรรยากาศ ที่ดูดซับรังสีที่เป็นอันตรายจากแสงแดดน้อยกว่าที่ระดับน้ำทะเล สาว ๆ ที่รักการเดินป่า การผจญภัยในโลกกว้างต้องระวังผิวให้ดีค่ะ
3. เราจะป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างไร
- 1. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ
หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะระหว่างเวลา 10.00 – 16.00 น. เพราะเป็นช่วงที่อันตรายที่สุด เพราะรังสียูวีกว่า 80 % จะส่องลงมาและสามารถสะท้อนแสงเมื่อกระทบผิวน้ำ พื้นถนน ซีเมนต์ ป้ายโฆษณา อาคารสีอ่อนๆ ทราย หรือแม้กระทั่งเก้าอี้นั่งชายหาดก็สะท้อนแสงยูวีได้เช่นกัน ดังนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง อย่าอยู่นานจนเกินไป และพยายามหลบแสงแดดให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ในทุกที่ ทุกเวลา - 2. สวมอุปกรณ์ป้องกัน
สวมเสื้อผ้าให้ปิดผิวมิดชิดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งโดยทั่วไปเสื้อผ้าที่ทอเนื้อแน่นสีอ่อน จะกันแดดได้มากกว่าเสื้อผ้าเนื้อบาง ๆ และไม่ควรสวมเสื้อผ้าสีเข้มอย่างสีดำ สีน้ำตาล เพราะจะทำให้ยิ่งดูดความร้อนเข้าไปในตัวเสื้อ และอาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังได้ค่ะ นอกจากนี้ ยังควรสวมหมวกปีกกว้าง หรือกางร่ม เมื่อต้องเจอแสงแดดหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ กลางแจ้งด้วยค่ะ เพื่อปกป้องผิวอีกชั้นหนึ่ง - 3. ดื่มน้ำ
เพื่อป้องกันผิวไม่ให้สูญเสียน้ำที่เกิดจากรังสียูวีมาดูดน้ำออกจากผิวไป เราจึงควรดื่มน้ำตลอดทั้งวัน ยิ่งในวันที่อากาศร้อน วันที่ต้องออกแดด ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ อย่าลืมดื่มน้ำตลอดทั้งวันด้วยการจิบเบา ๆ เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียให้กับความร้อนที่มากับแสงแดดค่ะ - 4. ทาครีมกันแดด
สำคัญที่สุดเราควรทาครีมกันแดดในบริเวณผิวหนังที่ไม่สามารถป้องกันด้วยเสื้อผ้า เช่น บริเวณใบหน้าหรือหลังมือ พึงระลึกไว้เสมอว่าครีมกันแดดป้องกันได้เพียงแสงยูวีเท่านั้น แต่แสงที่ให้ความสว่างหรือความร้อนจากแดด ซึ่งหากได้รับปริมาณมาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังได้เช่นกัน ในส่วนนี้ครีมกันแดดไม่สามารถป้องกันได้ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ควรต้องทาครีมกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะอยู่กลางแจ้งหรือในร่ม เพราะว่ารังสียูวีสามารถทำอันตรายกับผิวของเราได้ตลอดเวลาค่ะ โดยครีมกันแดดที่เลือกใช้ก็ควรเป็นครีมกันแดดที่มีค่าการป้องกันรังสียูวีสูง ๆ อย่างค่า SPF 50 PA++++ เพราะจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังควรต้องหมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อการปกป้องผิวจากรังสียูวีที่มีประสิทธิภาพ
สรุป การดูแลผิวหน้า
การดูแลผิวหน้า : เพราะแสงแดดนั้นมีอันตรายต่อผิวมาก ดังนั้น นอกจากคำแนะนำที่เราแนะนำให้ป้องกันตัวเองจากแสงแดดแล้ว อย่าลืมหมั่นทาครีมกันแดดทุกวันด้วยนะคะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทำยังไงให้ผิวเป็นสิว แพ้ง่าย กลับมาขาวใสเหมือนเดิม
ปัญหาผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย คือปัญหาผิวที่สาว ๆ หลายคนต้องเจอกันเป็นส่วนใหญ่ และเป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะนอกจากเราจะเป็นสิว ปัญหาที่จะตามมาก็คือ รอยแดงสิว ความหมองคล้ำ ริ้วรอย จุดด่างดำ และเป็นปัญหาที่เราต้องตามแก้ไข กว่าจะหายก็ใช้เวลานาน และแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ไม่มีวันหมดง่าย ๆ ตราบใดที่คุณยังเป็นสิวและมีผิวแพ้ง่ายเหมือนเดิม เราจึงอยากแนะนำเคล็ดลับการดูแลผิวสำหรับคนที่เป็นสิว มีผิวแพ้ง่าย ให้กลับมาขาวใสได้อีกครั้งมาฝากกันค่ะ
เคล็ดลับหน้าใส ไร้สิว เผยผิวออร่า
ใบหน้าของผู้หญิงถือว่าเป็นจุดเซ็นเตอร์ของความงามก็ได้เลยนะคะ แต่ถ้าเราไม่ดูแลผิวหน้าจนปล่อยให้มีสิว มีฝ้า จุดด่างดำ ก็อาจทำให้เราหมดความสวยไปเลย และยังส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวอีกด้วย และการจะทำให้ผิวหน้ากลับมาสวยใสได้เหมือนเดิมนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องยากมาก เพราะฉะนั้น เราควรรักษาผิวหน้าให้สวยใสไร้สิวกันดีกว่า เพื่อไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาผิวในภายหลังอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เราก็มี 10 เคล็ดลับการดูแลผิวมาฝากกัน
8 นิสัยที่ทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาอีกเลย
เรื่องของสิวเป็นแล้วก็กลับมาเป็นอีก เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมสิวจึงเป็น ๆ หาย ๆ ในความเป็นจริงแล้วสิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะนิสัยของเรากันแน่ที่ทำให้เกิดสิวตัวร้าย เป็นแล้วก็เป็นอีก นอกจากเลิกเป็นสิวแล้วยังทิ้งรอยแผลสิวไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่านิสัยแบบไหนที่จะทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาเยี่ยมใบหน้าของเราอีกเลย
เหตุผลว่าทำไมเซรั่มจึงช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้
ไม่ว่าการดูแลขั้นตอนจะใช้สกินแคร์มากสักแค่ไหน แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเซรั่มจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้นเสมอ นั่นเป็นเพราะเซรั่มนั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวได้อย่างลึกล้ำ ทำให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ เซรั่มจึงเปรียบเสมือนได้กับอาหารผิวชั้นดีที่สกัดมาเพื่อการบำรุงผิวโดยเฉพาะ
เลือกเซรั่มยังไงให้ดีที่สุดสำหรับผิวของเรา
หากคุณเป็นอีกคนที่ต้องการให้ผิวมีสุขภาพดี สิ่งหนึ่งที่คุณจะขาดไม่ได้ก็คือการใช้สกินแคร์ช่วยบำรุงผิวของคุณค่ะ โดยเฉพาะการใช้เซรั่มบำรุงผิวร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น และการใช้เซรั่มก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเลือกใช้เซรั่มอย่างไรก็ได้นะคะ แต่ต้องเลือกเซรั่มที่ดีที่สุดและเหมาะกับผิวของเราจริง ๆ จึงจะทำให้เซรั่มบำรุงผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
รู้ไว้เลย ถ้าไม่ทาครีมกันแดดจะเป็นแบบนี้นะจ๊ะ
เราเตือนแล้วเตือนอีกว่าถ้าอยากมีผิวสวย ไม่แห้งเหี่ยวก่อนวัยอันควรก็ต้องปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด แต่ถึงแม้ว่าแดดบ้านเราจะร้อนสักแค่ไหน แต่สาว ๆ ก็มักจะหลงลืมทาครีมกันแดดกันประจำ เอาเป็นว่าถ้าใครไม่เชื่อเรา วันนี้เราจะมาบอกว่าทำไมสาว ๆ จึงควรทาครีมกันแดด เพราะถ้าหากไม่ทาแล้วล่ะ ผิวของคุณก็อาจจะเป็นแบบนี้ได้เลยค่ะ
พลาดกันมากี่ครั้งแล้วกับความเชื่อผิด ๆ ของครีมกันแดด
แสงแดดร้อนระอุในบ้านเราแบบนี้ สิ่งที่เราจะขาดจากกระเป๋าของเราไม่ได้เลยก็คือ ครีมกันแดดนั่นเอง เพราะครีมกันแดดมีประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก ทั้งช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV ไม่ให้ผิวไหม้คล้ำเสีย ชะลอการเกิดริ้วรอย ไม่ทำให้เราแก่เร็ว ลดความเสี่ยงการเกิดกระ ฝ้า มะเร็งผิวหนัง แต่ถึงประโยชน์จะเยอะขนาดนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายังมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
เซรั่ม แหล่งอาหารชั้น 1 ที่ผิวเราขาดไม่ได้!
ปัจจุบันแค่ใช้ครีมบำรุงผิวธรรมดาก็เอาไม่อยู่แล้ว เพราะในอากาศสมัยก่อนกับปัจจุบันนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง เราคงต้องยอมรับว่าผิวของเราล้วนตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษมากมายกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น คราบเขม่าควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ความร้อนจากแสงแดดที่นับวันก็ยิ่งมีแต่เพิ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ปล่อยของเสียออกมาในปริมาณมาก สิ่งที่เราจะทำได้คือการดูแลผิวของเรา เติมอาหารผิวของเราให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้ผิวมีสุขภาพดีได้นั่นเอง และสกินแคร์ตัวสำคัญที่จะดูแลผิวของเราให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ก็คือ เซรั่มบำรุงผิวนั่นเองค่ะ
ผิวของคนเราจะทนแดดได้ซักแค่ไหนกันนะ
แสงแดดที่เราต้องเจอกันทุก ๆ วัน รู้หรือไม่คะว่าคนเราแต่ละคนมีความทนต่อแสงแดดต่างกัน เนื่องจากสีผิวของเรานั้นแตกต่างกัน ทำให้การดูดซับหรือความทนต่อรังสียูวีในผิวของแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าสีผิวของแต่ละคนจะมีความทนต่อแสงแดดได้สักเท่าไหร่ และจะมีวิธีการป้องกันผิวจากแสงแดดที่น่าสนใจได้อย่างไรบ้าง