ครีมกันแดดทาหน้า : แสงแดดร้อนระอุในบ้านเราแบบนี้ สิ่งที่เราจะขาดจากกระเป๋าของเราไม่ได้เลยก็คือ ครีมกันแดดนั่นเอง เพราะครีมกันแดดมีประโยชน์ต่อผิวอย่างมาก ทั้งช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV ไม่ให้ผิวไหม้คล้ำเสีย ชะลอการเกิดริ้วรอย ไม่ทำให้เราแก่เร็ว ลดความเสี่ยงการเกิดกระ ฝ้า มะเร็งผิวหนัง แต่ถึงประโยชน์จะเยอะขนาดนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายังมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
สารบัญเนื้อหา
1. วันนี้ฝนตก ไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้
2. อยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องทาครีมกันแดดหรอก มันเปลือง
3. ค่า SPF 30 หรือ 50 มันก็ไม่ต่างกันหรอก
4. ทาครีมกันแดดที่หน้าหรือที่ตัวอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอแล้ว
5. ไปเที่ยวไม่ต้องพกครีมกันแดด แค่ใช้เครื่องสำอางที่มี SPF ก็พอแล้ว
6. แค่ครีมกันแดดตัวเดียวเอาอยู่
1. วันนี้ฝนตก ไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้
พระเจ้า! ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่ายังมีสาว ๆ ที่คิดแบบนี้อยู่ว่าในวันที่ไม่มีแดด ฉันก็ไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดสิ แล้วเคยสังเกตไหมคะว่าในวันที่ไม่มีแดดแต่ผิวของเราก็คล้ำได้ นั่นเป็นรังสี UV ในแสงแดดกำลังทำร้ายผิวของคุณอยู่ไงล่ะ เพราะฉะนั้นถึงวันที่ไม่มีแดดอย่างวันที่ฝนตกหนักก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่ต้องทาครีมกันแดดนะคะ เพราะตราบใดที่ยังเป็นเวลากลางวัน รังสี UV ก็สามารถทำร้ายผิวได้ตลอดเวลาค่ะ
2. อยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องทาครีมกันแดดหรอก มันเปลือง
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่แต่ในบ้าน แต่ทราบหรือไม่ว่าไอความร้อนที่มีรังสี UV ก็สามารถตามมาทำร้ายผิวของเราได้อยู่ดี และนอกจากรังสี UV แล้ว แสงไฟจากหลอดนีออนภายในบ้าน แสงไฟจากคอมพิวเตอร์ก็มีส่วนทำให้ผิวของคุณเสียได้เช่นเดียว เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวันด้วยนะคะ
3. ค่า SPF 30 หรือ 50 มันก็ไม่ต่างกันหรอก
เคยสังเกตตัวเองกันไหมคะว่าตอนที่เราเลือกซื้อครีมกันแดด เราได้ให้ความสำคัญกับค่า SPF บนฉลากหรือเปล่า เพราะบางคนอาจคิดว่าค่า SPF ค่าไหนก็สามารถป้องกันแดดได้ทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ เพราะค่า SPF สูง ๆ สามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้มากกว่าค่า SPF ต่ำ ๆ เหมาะสำหรับวันที่ต้องออกไปเผชิญแดดแรง ๆ อย่างวันที่เราไปเที่ยวพักผ่อน แต่ถ้าหากวันนี้เราอยู่บ้านก็อาจเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำ ๆ ได้ค่ะ และที่สำคัญคือค่า PA หรือค่าการปกป้องผิวจากรังสี UVA ยิ่งค่า PA สูงก็ยิ่งปกป้องได้มากกว่าหลายเท่าค่ะ
4. ทาครีมกันแดดที่หน้าหรือที่ตัวอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอแล้ว
ปัจจุบันครีมกันแดดทำมาตอบโจทย์สาว ๆ มากขึ้น มีทั้งครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า ครีมกันแดดสำหรับผิวกาย บางแบรนด์สามารถทาได้ทั้งหน้าและกายเลยทีเดียว และบางแบรนด์ยังเพิ่มความสะดวกทำมาในรูปของรองพื้นเนื้อบางเบา แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน สาว ๆ ก็ควรทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายด้วยนะคะ เพราะบางคนคิดว่าแค่ทาผิวกายก็พอ เพราะผิวหน้ามีรองพื้นอยู่แล้ว ไม่อยากทาให้หนักหน้ามากเกินไป ซึ่งถ้าหากสาว ๆ ชอบแบบนั้น เราก็แนะนำให้เลือกใช้รองพื้นที่ผสมครีมกันแดดไปเลยจะดีกว่าค่ะ ไม่ต้องกลัวหนักหน้า แถมยังประหยัดทั้งเงินและเวลา ทาแค่ตัวเดียว ป้องกันแดดและยังช่วยปกปิดได้เรียบเนียนอีกด้วยค่ะ
5. ไปเที่ยวไม่ต้องพกครีมกันแดด แค่ใช้เครื่องสำอางที่มี SPF ก็พอแล้ว
เป็นความเชื่อแบบผิด ๆ ที่ยังมีคนเข้าใจอยู่เยอะเลยค่ะว่าการใช้สกินแคร์ที่ผสมสารกันแดดนั้นเพียงพอแล้วที่เราไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดซ้ำ โดยเฉพาะในวันที่เราต้องไปเที่ยวตากแดดทั้งวันหรือวันที่เราต้องทำงานกลางแจ้ง ซึ่งครีมกันแดดที่ผสมอยู่ในสกินแค่ส่วนใหญ่จะมีค่า SPF ต่ำกว่า 30 และยิ่งเราต้องอยู่กลางแจ้ง ก็มีโอกาสที่เหงื่อจะพาสารกันแดดให้หลุดออกได้ง่าย ทางเดียวคือการใช้ครีมกันแดดทาป้องกันซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยแนะนำให้เลือกเป็นรองพื้นที่ผสมสารกันแดดที่สามารถเติมได้ระหว่างวัน หรือครีมกันแดดเนื้อน้ำที่ซึมเข้าผิวได้อย่างไม่อุดตัน
6. แค่ครีมกันแดดตัวเดียวเอาอยู่
สาว ๆ บางคนคิดว่าแค่ทาครีมกันแดดแล้วจะใส่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยวออกจากบ้านได้เลย เพราะครีมกันแดดตัวเดียวเอาอยู่แน่นอน แต่พอกลับมาบ้านปุ๊บปรากฎว่าผิวไหม้ แสบร้อนไปตาม ๆ กัน นั่นเป็นเพราะครีมกันแดดตัวเดียวเอาไม่อยู่หรอกค่ะ จริงอยู่ว่าครีมกันแดดนั้นช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้ แต่อย่าลืมว่าค่าการปกป้องในครีมกันแดดนั้นจะอยู่กับเราได้ไม่ยาวนาน ยิ่งเราต้องตากแดดนาน ๆ คราบเหงื่อ ลม ฝุ่น ก็พาครีมกันแดดหลุดลอกไปได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีถ้าคุณต้องสวมเสื้อที่ไม่มีแขนออกจากบ้าน ก็ควรทาครีมกันแดดซ้ำบ่อย ๆ นะคะ จะได้ช่วยเพิ่มการปกป้องได้อย่างยาวนาน หรือควรกางร่ม สวมหมวกหรือสวมเสื้อแขนยาวคลุมทับอีกทีค่ะ
สรุป ครีมกันแดดทาหน้า
นอกจากความเชื่อเหล่านี้แล้ว บางคนยังเชื่อว่าครีมกันแดดมีส่วนทำให้เกิดสิวได้ง่ายจึงไม่ยอมทา ซึ่งจริง ๆ แล้วครีมกันแดดไม่ได้ทำให้เกิดสิวแต่อย่างใดหากคุณล้างหน้าสะอาดพอค่ะ ลองเปลี่ยนความคิดผิด ๆ เหล่านี้แล้วหันมาทาครีมกันแดด เพื่อผิวสวยสุขภาพดีจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทำยังไงให้ผิวเป็นสิว แพ้ง่าย กลับมาขาวใสเหมือนเดิม
ปัญหาผิวเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย คือปัญหาผิวที่สาว ๆ หลายคนต้องเจอกันเป็นส่วนใหญ่ และเป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะนอกจากเราจะเป็นสิว ปัญหาที่จะตามมาก็คือ รอยแดงสิว ความหมองคล้ำ ริ้วรอย จุดด่างดำ และเป็นปัญหาที่เราต้องตามแก้ไข กว่าจะหายก็ใช้เวลานาน และแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ไม่มีวันหมดง่าย ๆ ตราบใดที่คุณยังเป็นสิวและมีผิวแพ้ง่ายเหมือนเดิม เราจึงอยากแนะนำเคล็ดลับการดูแลผิวสำหรับคนที่เป็นสิว มีผิวแพ้ง่าย ให้กลับมาขาวใสได้อีกครั้งมาฝากกันค่ะ
เคล็ดลับหน้าใส ไร้สิว เผยผิวออร่า
ใบหน้าของผู้หญิงถือว่าเป็นจุดเซ็นเตอร์ของความงามก็ได้เลยนะคะ แต่ถ้าเราไม่ดูแลผิวหน้าจนปล่อยให้มีสิว มีฝ้า จุดด่างดำ ก็อาจทำให้เราหมดความสวยไปเลย และยังส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวอีกด้วย และการจะทำให้ผิวหน้ากลับมาสวยใสได้เหมือนเดิมนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องยากมาก เพราะฉะนั้น เราควรรักษาผิวหน้าให้สวยใสไร้สิวกันดีกว่า เพื่อไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาผิวในภายหลังอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เราก็มี 10 เคล็ดลับการดูแลผิวมาฝากกัน
8 นิสัยที่ทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาอีกเลย
เรื่องของสิวเป็นแล้วก็กลับมาเป็นอีก เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมสิวจึงเป็น ๆ หาย ๆ ในความเป็นจริงแล้วสิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจริงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะนิสัยของเรากันแน่ที่ทำให้เกิดสิวตัวร้าย เป็นแล้วก็เป็นอีก นอกจากเลิกเป็นสิวแล้วยังทิ้งรอยแผลสิวไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่านิสัยแบบไหนที่จะทำให้สิวหายเกลี้ยง ไม่กลับมาเยี่ยมใบหน้าของเราอีกเลย
เหตุผลว่าทำไมเซรั่มจึงช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้
ไม่ว่าการดูแลขั้นตอนจะใช้สกินแคร์มากสักแค่ไหน แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเซรั่มจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกนั้นเสมอ นั่นเป็นเพราะเซรั่มนั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวได้อย่างลึกล้ำ ทำให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้ เซรั่มจึงเปรียบเสมือนได้กับอาหารผิวชั้นดีที่สกัดมาเพื่อการบำรุงผิวโดยเฉพาะ
เลือกเซรั่มยังไงให้ดีที่สุดสำหรับผิวของเรา
หากคุณเป็นอีกคนที่ต้องการให้ผิวมีสุขภาพดี สิ่งหนึ่งที่คุณจะขาดไม่ได้ก็คือการใช้สกินแคร์ช่วยบำรุงผิวของคุณค่ะ โดยเฉพาะการใช้เซรั่มบำรุงผิวร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น และการใช้เซรั่มก็ไม่ใช่ว่าคุณจะเลือกใช้เซรั่มอย่างไรก็ได้นะคะ แต่ต้องเลือกเซรั่มที่ดีที่สุดและเหมาะกับผิวของเราจริง ๆ จึงจะทำให้เซรั่มบำรุงผิวพรรณได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
รู้ไว้เลย ถ้าไม่ทาครีมกันแดดจะเป็นแบบนี้นะจ๊ะ
เราเตือนแล้วเตือนอีกว่าถ้าอยากมีผิวสวย ไม่แห้งเหี่ยวก่อนวัยอันควรก็ต้องปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด แต่ถึงแม้ว่าแดดบ้านเราจะร้อนสักแค่ไหน แต่สาว ๆ ก็มักจะหลงลืมทาครีมกันแดดกันประจำ เอาเป็นว่าถ้าใครไม่เชื่อเรา วันนี้เราจะมาบอกว่าทำไมสาว ๆ จึงควรทาครีมกันแดด เพราะถ้าหากไม่ทาแล้วล่ะ ผิวของคุณก็อาจจะเป็นแบบนี้ได้เลยค่ะ
เซรั่ม แหล่งอาหารชั้น 1 ที่ผิวเราขาดไม่ได้!
ปัจจุบันแค่ใช้ครีมบำรุงผิวธรรมดาก็เอาไม่อยู่แล้ว เพราะในอากาศสมัยก่อนกับปัจจุบันนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง เราคงต้องยอมรับว่าผิวของเราล้วนตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษมากมายกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น คราบเขม่าควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ความร้อนจากแสงแดดที่นับวันก็ยิ่งมีแต่เพิ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ปล่อยของเสียออกมาในปริมาณมาก สิ่งที่เราจะทำได้คือการดูแลผิวของเรา เติมอาหารผิวของเราให้ได้มากที่สุด เพื่อทำให้ผิวมีสุขภาพดีได้นั่นเอง และสกินแคร์ตัวสำคัญที่จะดูแลผิวของเราให้มีสุขภาพดีขึ้นได้ก็คือ เซรั่มบำรุงผิวนั่นเองค่ะ